ตร. แจ้งข้อหา 5 นักเรียนชายรุมโทรมเด็กหญิง ม.2 ในป่าอ้อย

ตร. แจ้งข้อหา 5 นักเรียนชายรุมโทรมเด็กหญิง ม.2 ในป่าอ้อย

ตำรวจแจ้งข้อหา 5 นักเรียนชายรุมโทรมเด็กหญิง ม.2 ในป่าอ้อย ตำรวจเตรียมเอาผิดนักเรียนที่เป็นคนเผยแพร่คลิปด้วย พ.ต.อ.สุเมธ เงินบำรุง ผกก.สภ.หนองโสน เปิดเผยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหานักเรียนชาย 5 คน คือ ร่วมกันรุมโทรมหญิง หลังจากที่ แม่ของน้องเอ เด็กหญิง ม.2 ได้เดินทางมาที่มูลนิธิปวีณา ร้องเรียนว่าลูกสาวของตนถูกนักเรียนชายรุมโทรม ในป่าอ้อยที่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 1 กม. เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า มีการร่วมกระทำชำเราผู้เสียหายจำนวน 3 คน ส่วนอีก 2 คน ช่วยกันจับนักเรียนสาว

ส่วนนักเรียนหญิงที่มีข่าวว่าเป็นนกต่อนั้น ต้องมีการสอบสวนโดยละเอียดต่อหน้าสหวิชาชีพต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (25 ม.ค. 66) จะนัดสอบสวนที่สำนักงานอัยการจังหวัดพิจิตร เพื่อดูว่ามีความเกี่ยวพันธ์กับคดีนี้หรือไม่ ส่วนนักเรียนชายที่ถ่ายคลิปและเผยแพร่ลงสื่อสังคมออนไลน์ จะถูกแจ้งข้อหานำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วย ด้านผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุ เผยถึงกรณีที่มีข่าวว่าทางโรงเรียนไม่ยอมให้นักเรียนหญิงที่ถูกกระทำ เรียนต่อที่โรงเรียนนั้น ขอยืนยันว่าไม่เคยไล่นักเรียนผู้เสียหายไปเรียนที่อื่นแต่อย่างใด

แต่ทางโรงเรียนแนะนำว่าให้ไปเรียนที่อื่นก่อน เพื่อเยียวยาสภาพจิตใจของนักเรียน หากเรียนในโรงเรียนซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ในชุมชน จะเกิดปัญหาบูลลี่กันในหมู่เพื่อนนักเรียน และอาจจะเกิดปัญหาอื่นตามมา หากเวลาผ่านไปสถานการณ์ดีขึ้น นักเรียนอาจจะกลับมาเรียนในระดับชั้นมัธยมปีที่ 4 ได้

ซึ่งทางโรงเรียนได้แนะนำให้เป็นทางเลือกเท่านั้น ส่วนนักเรียนชายทั้ง 5 คน ได้ให้ผู้ปกครองไปหาที่เรียนใหม่แล้ว เนื่องจากตามระเบียบของโรงเรียนไม่สามารถไล่นักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ในระดับการศึกษาภาคบังคับออกได้

ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมแจงกรณี พายุไต้ฝุ่นเข้าไทย 47 จังหวัด ฝนตกหนัก 80% ชี้เป็นข่าวปลอม อย่าแชร์ เผยอุณหภูมิจะลดลง จากกรณีที่มีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับ 47 จังหวัดทั่วประเทศเตรียมรับมือ พายุไต้ฝุ่นเข้าไทย ฝนกลับมาตกหนัก 80% ของพื้นที่ ล่าสุดเพจ Anti-Fake News Center Thailand ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวก่อนพบว่าข่าวดังกล่าวเป็นข่าวปลอม

ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมระบุว่า “ตามที่มีข้อมูลในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง 47 จังหวัดทั่วประเทศเตรียมรับมือ พายุไต้ฝุ่นเตรียมเข้าไทย ฝนกลับมาตกหนัก 80% ของพื้นที่ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากกรณีที่มีผู้โพสต์ให้ข้อมูลโดยระบุว่า 47 จังหวัดทั่วประเทศเตรียมรับมือ พายุไต้ฝุ่นเตรียมเข้าไทย ฝนกลับมาตกหนัก 80% ของพื้นที่ ทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่ได้มีที่มาจากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งในช่วงวันที่ 2 – 3 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

เดือด! นักโทษก่อ จลาจลเรือนจำเขาบิน ล่าสุดคุมสถานการณ์ได้แล้ว

วุ่น นักโทษก่อ จลาจลเรือนจำเขาบิน หลังหัวโจกแก๊งกรุงเทพ ราชบุรี เขม่นกัน จนเกิดเหตุบานปลาย ล่าสุดคุมสถานการณ์ได้แล้ว เกิดเหตุจลาจลเรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรี ตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังจากที่หัวโจกผู้ต้องขังจาก จ.เพชรบุรี และ กทม. เขม่นกัน จนทำให้เกิดการชกต่อยขึ้น ส่งผลให้ผู้ต้องขังคนอื่นๆขัดคำสั่งเจ้าหน้าที่ ไม่ยอมขึ้นโรงนอน และทำให้สถานการณ์บานปลายกลายเป็นเหตุชุลมุน ชกต่อยจนทำให้มีผู้ต้องขังได้รับบาดเจ็บ เคราะห์ดีไม่ถึงขั้นรุนแรง

ต่อมาเวลา 19.00 น. ของวันที่ 2 ม.ค. มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่และ ผบ.เรือนจำกลางเขาบิน สามารถควบคุมสถานการณ์จลาจลคุกเขาบินได้แล้ว พร้อมนำตัวผู้ต้องขังหัวโจกจากกลุ่มจังหวัดต่างๆ แยกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำอื่นอีก 6 จังหวัด เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำอีก

ขณะที่บรรยากาศหน้าเรือนจำนั้นมี รถขนย้ายผู้ต้องขังจากหลายจังหวัด มาจอดสแตนด์บายไว้อยู่หลายคัน นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่อีกกว่า 40 นาย คอยตรึงกำลังควบคุมอยู่บริเวณด้านหน้าเรือนจำ

ส่วนภายในเรือนจำนั้น จากรายงานทราบว่า มี ผบ.เรือนจำ และเจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.จอมบึง คอยควบคุมสถานการณ์ผู้ต้องขังอยู่ภายในเรือนจำ

เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเผยว่าสาเหตุที่ไม่อยากให้มีการเสนอข่าว เนื่องจากจะเป็นการยั่วยุส่งเสริมให้ผู้ต้องขังที่ถูกคุมขังอยู่เรือนจำอื่นลอกเลียนแบบ จนเกิดเป็นการจลาจลในทุกเรือนจำ ดังนั้นจึงไม่ได้มีการรายงานให้ทางสื่อมวลชนทราบแต่อย่างใด

แม้ว่าทางเพจ แม้นศรี จะขอโทษไปแล้ว แต่ชาวเน็ตบางส่วนยังเข้ามาแสดงความเห็นไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ทั้งสองทำลงไป และเรียกร้องให้ทำอย่างอื่นเพิ่มเติมนอกจากเพียงแค่อัดคลิปขอโทษ

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เซ็กซี่บาคาร่า น้ำเต้าปูปลาออนไลน์ เว็บตรง100 ดัมมี่ออนไลน์ UFA666WIN