ศึกษาธิการ ยกเลิกระเบียบทรงผมนักเรียน ให้อำนาจโรงเรียนเป็นผู้กำหนดตามความเหมาะสม ยังห้ามตัดย้อมหรือไว้หนวดเช่นเดิม น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตามที่มีเสียงเรียกร้องให้มีการแก้ไขปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 มาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญการลงโทษเรื่องทรงผมได้ส่งผลถึงร่างกายและจิตใจของนักเรียน ศธ.จึงได้มีหนังสือหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กรณีแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียน ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 8)
ได้ให้ความเห็นว่า รมว.ศธ.ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดอาจอาศัยอำนาจตามมาตรา 12 ประกอบกับมาตรา 39 (1) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 กำหนดเป็นนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดนำไปปฏิบัติได้
ดังนั้น เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ตนจึงได้ลงนามในระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการยกเลิกระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 และเสนอสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วออกเป็นหนังสือสั่งการหรือหนังสือเวียน กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนหรือนักศึกษาไว้อย่างกว้าง ๆ เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดที่เป็นผู้กำกับดูแลสถานศึกษา กำหนดให้สถานศึกษาแต่ละแห่งนำหลักเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าวไปกำหนดเป็นระเบียบหรือข้อบังคับของสถานศึกษาแต่ละแห่งเอง
หลังจากที่กระทรวงศึกษาธิการ มีการกำหนดแนวนโยบายเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนของสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการและในกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ ที่จะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ โดยสถานศึกษาอาจกำหนดลักษณะทรงผมได้ตามพันธกิจ บริบท และความเหมาะสมของแต่ละสถานศึกษา
เบื้องต้น ให้สถานศึกษา กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับไว้ทรงผมของนักเรียนโดยการวางระเบียบหรือข้อบังคับของสถานศึกษา และควรระบุบทอาศัยอำนาจของกฎหมายเฉพาะมาตรา 39 (1) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 และจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามหลักการมีส่วนร่วม เช่น นักเรียน คณะกรรมการสภานักเรียน คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองหรือผู้แทนผู้ปกครอง ชุมชนท้องถิ่น บุคคลหรือกลุ่มบุคคลอื่นใดที่หัวหน้าสถานศึกษาเห็นสมควร เป็นต้น และเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาหรือคณะกรรมการบริหารโรงเรียนแล้วแต่กรณี ก่อนการประกาศใช้
พุทธ อภิวรรณ กล่าวบอกลาทีมงานโต๊ะข่าว ท่ามกลางข่าวลาออกอมรินทร์ ลั่นถึงไม่ได้ทำงานด้วยกันแต่ก็ยังเป็นพี่น้องกัน ช่วยเหลือกันได้ จากกรณีกระแสข่าว พุทธ อภิวรรณ ผู้สื่อข่าวฝีปากกล้าลาออกจากช่องอมรินทร์นั้น ล่าสุดมีทีมข่าวทุบโต๊ะข่าวได้โพสต์คลิปของ พุทธ อภิวรรณ บอกลากับเพื่อนร่วมงาน โดยได้กล่าวว่า “สิ่งนึงที่พวกคุณทำงาน ไม่ว่าจะเป็น เพจ ทีวี ตัดต่อ หรือนักข่าว ให้คุณจำไว้ว่า เราอยู่ได้เพราะคนดู 9 ปีที่เราสร้างทุบโต๊ะข่าวขึ้นมา ผมก็หวังว่าหลังจากนี้เราจะช่วยดูแลกันต่อไป ไม่มีผม ก็ยังมีพี่บก. อีกหลายๆ คนช่วยดูแล ถึงไม่ได้ทำงานด้วยกัน ก็ยังเป็นพี่เป็นน้องกัน ถ้ามีปัญหาอะไร ถ้าคิดว่ายังช่วยเหลือได้ให้ติดต่อมา”
ขณะที่มีผู้ใช้ TikTok อีกคนรายหนึ่งได้โพสต์คลิปสั้นๆของ ทีมทุบโต๊ะข่าวที่มารวมตัวส่ง พุทธ อภิวรรณ โดยเธอเขียนข้อความสั้นๆเพียงแค่ว่า “แล้วพบกันใหม่ค่ะ” รวมถึง จิตดี ศรีดี พิธีกรคู่บุญก็ได้โพสต์ข้อความว่า “การตัดสินใจของพี่ ทำให้หนูใจหาย ไม่เป็นไรค่ะ พักกายให้สบายใจนะคะ ใช้พลังมาเยอะแล้ว ชาร์จแบตชีวิตให้ตัวเอง เพราะชีวิตต้องดำเนินต่อไป” ทั้งนี้ยังไม่มีการเปิดเผยว่าจุดหมายต่อไปของ พุทธ อภิวรรณ คือช่องไหน หรือจะมีการพักจอก่อนหรือไม่
ครอบครัว ‘น้องเต้’ เผยยังไม่ได้เงินเยียวยาจากครอบครัวเด็ก 15 ขับ BMW
ครอบครัว น้องเต้ เผยยังไม่ได้เงินเยียวยาจากครอบครัว เด็ก 15 ขับ BMW ชนบัณฑิต ยืนกรานเรียกร้องค่าเสียหาย 15 ล้านบาท จากกรณีที่เด็ก 15 ขับ BMW ชนบัณฑิต หรือ น้องเต้ เสียชีวิต บริเวณสี่แยกไฟแดง ถนนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ประตู 1 เมื่อช่วงคืนวันที่ 30 กันยายนปีที่ 2565 และกลายเป็นกระแสข่าวดังตามที่เคยรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด บิดาและมารดา พร้อมด้วยพี่สาวและเพื่อนร่วมงานของน้องเต้ บัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์ เกียรตินิยม ม.เทคโนโลยีสุรนารี เดินทางมายัง ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมา พร้อมทนายความ ตามที่ศาลได้นัดสอบคำให้การถึงกรณี เด็ก15ผ่าไฟแดงชนคนตาย
เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งดำเนินคดีกับเยาวชนชายคนดังกล่าว 4 ข้อหา ประกอบด้วย ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณจราจร, ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
ทั้งนี้ทางครอบครับของน้องเต้เปิดเผยว่า ทางครอบครัวเด็ก 15 ยังไม่ได้ติดต่อขอเจรจาชดใช้ค่าเสียหายแต่อย่างใด ครอบครัวได้แต่เพียงเงินช่วยเหลือจาก พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถจำนวน 500,000 บาทเท่านั้น โดยทางฝั่งครอบครัวของน้องเต้ยังยืนยันที่จะเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 15 ล้านบาท และอยากเรียกร้องให้ทางฝั่งคู่กรณีเห็นใจทางครอบครัวที่ต้องสูญเสียกำลังเสาหลักไปอย่างไม่มีวันกลับ
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ เว็บสล็อตแท้ สล็อตเว็บตรง